โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 69462 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69462

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 69462 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 69462 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 17, 18, 34, 51, 102, 153, 227, 306, 454, 681, 1362, 2043, 3859, 4086, 7718, 11577, 23154, 34731, 69462
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
69462 ÷ 1=69462เหลือเศษ 0
69462 ÷ 2=34731เหลือเศษ 0
69462 ÷ 3=23154เหลือเศษ 0
69462 ÷ 6=11577เหลือเศษ 0
69462 ÷ 9=7718เหลือเศษ 0
69462 ÷ 17=4086เหลือเศษ 0
69462 ÷ 18=3859เหลือเศษ 0
69462 ÷ 34=2043เหลือเศษ 0
69462 ÷ 51=1362เหลือเศษ 0
69462 ÷ 102=681เหลือเศษ 0
69462 ÷ 153=454เหลือเศษ 0
69462 ÷ 227=306เหลือเศษ 0
69462 ÷ 306=227เหลือเศษ 0
69462 ÷ 454=153เหลือเศษ 0
69462 ÷ 681=102เหลือเศษ 0
69462 ÷ 1362=51เหลือเศษ 0
69462 ÷ 2043=34เหลือเศษ 0
69462 ÷ 3859=18เหลือเศษ 0
69462 ÷ 4086=17เหลือเศษ 0
69462 ÷ 7718=9เหลือเศษ 0
69462 ÷ 11577=6เหลือเศษ 0
69462 ÷ 23154=3เหลือเศษ 0
69462 ÷ 34731=2เหลือเศษ 0
69462 ÷ 69462=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69462
1 x 69462
2 x 34731
3 x 23154
6 x 11577
9 x 7718
17 x 4086
18 x 3859
34 x 2043
51 x 1362
102 x 681
153 x 454
227 x 306
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69462
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 17 + 18 + 34 + 51 + 102 + 153 + 227 + 306 + 454 + 681 + 1362 + 2043 + 3859 + 4086 + 7718 + 11577 + 23154 + 34731 + 69462 = 160056
ตัวประกอบของ 69462 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 17, 227
การแยกตัวประกอบคืออะไร

69462 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

69462 = 2 x 3 x 3 x 17 x 227
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69462 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69462 = 2 x 32 x 17 x 227
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 69462 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69462 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69462 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34731
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69462
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69462 แบบที่หนึ่ง
  • 69462
    • 227
    • 306
      • 17
      • 18
        • 3
        • 6
          • 2
          • 3

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69462 แบบที่สอง
  • 69462
    • 2
    • 34731
      • 3
      • 11577
        • 3
        • 3859
          • 17
          • 227
ดังนั้น 69462 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69462 = 2 x 3 x 3 x 17 x 227
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69462 = 2 x 32 x 17 x 227 หรือ 21 x 32 x 171 x 2271

2. การแยกตัวประกอบของ 69462 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 69462 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69462 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 227 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69462

2
)69462
3
)34731
3
)11577
17
)3859
227
)227
1
ดังนั้น 69462 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69462 = 2 x 3 x 3 x 17 x 227
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69462 = 2 x 32 x 17 x 227 หรือ 21 x 32 x 171 x 2271

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69462

1แยกตัวประกอบของ 69462 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 171 x 2271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 227 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69462 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69462 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇