ตัวประกอบของ 6471 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6471
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6471 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6471 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6471 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6471 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6471 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 719, 2157, 6471
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6471 ÷ 1 | = | 6471 | เหลือเศษ 0 |
6471 ÷ 3 | = | 2157 | เหลือเศษ 0 |
6471 ÷ 9 | = | 719 | เหลือเศษ 0 |
6471 ÷ 719 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
6471 ÷ 2157 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
6471 ÷ 6471 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6471
1 x 6471 | = | 6471 |
3 x 2157 | = | 6471 |
9 x 719 | = | 6471 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6471
1 + 3 + 9 + 719 + 2157 + 6471 = 9360
▶ ตัวประกอบของ 6471 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 719
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6471 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6471 = 3 x 3 x 719
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6471 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6471 = 32 x 719
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6471 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6471 = 32 x 719
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6471 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6471 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6471 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2157
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6471
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6471 แบบที่หนึ่ง
- 6471
- 9
- 3
- 3
- 719
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6471 แบบที่สอง
- 6471
- 3
- 2157
- 3
- 719
ดังนั้น 6471 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6471 =
3 x 3 x 719
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6471 =
32 x 719 หรือ 32 x 7191
2. การแยกตัวประกอบของ 6471 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6471 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6471 นั้นก็คือ 3, 719 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6471
3)64713)2157719)7191ดังนั้น 6471 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6471 = 3 x 3 x 719หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง6471 = 32 x 719 หรือ 32 x 7191วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6471
1แยกตัวประกอบของ 6471 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 71912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 719 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6471 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6471 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6471 นั้นก็คือ 3, 719 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6471
3
)6471
3
)2157
719
)719
1
ดังนั้น 6471 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6471 = 3 x 3 x 719
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6471 = 32 x 719 หรือ 32 x 7191
1แยกตัวประกอบของ 6471 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 7191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 719 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6471 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6471 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇