ตัวประกอบของ 5957 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5957
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5957 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5957 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5957 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5957 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5957 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 23, 37, 161, 259, 851, 5957
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5957 ÷ 1 | = | 5957 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 7 | = | 851 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 23 | = | 259 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 37 | = | 161 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 161 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 259 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 851 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
5957 ÷ 5957 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5957
1 x 5957 | = | 5957 |
7 x 851 | = | 5957 |
23 x 259 | = | 5957 |
37 x 161 | = | 5957 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5957
1 + 7 + 23 + 37 + 161 + 259 + 851 + 5957 = 7296
▶ ตัวประกอบของ 5957 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 23, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5957 = 7 x 23 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5957 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5957 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5957 มา 1 คู่ เช่น 7 x 851
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5957
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5957 แบบที่หนึ่ง
- 5957
- 37
- 161
- 7
- 23
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5957 แบบที่สอง
- 5957
- 7
- 851
- 23
- 37
ดังนั้น 5957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5957 =
7 x 23 x 37
2. การแยกตัวประกอบของ 5957 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5957 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5957 นั้นก็คือ 7, 23, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5957
7)595723)85137)371ดังนั้น 5957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5957 = 7 x 23 x 37วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5957
1แยกตัวประกอบของ 5957 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 231 x 3712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5957 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5957 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5957 นั้นก็คือ 7, 23, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5957
7
)5957
23
)851
37
)37
1
ดังนั้น 5957 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5957 = 7 x 23 x 37
1แยกตัวประกอบของ 5957 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 231 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5957 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5957 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇