ตัวประกอบของ 5356 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5356
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5356 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5356 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5356 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5356 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5356 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 103, 206, 412, 1339, 2678, 5356
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5356 ÷ 1 | = | 5356 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 2 | = | 2678 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 4 | = | 1339 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 13 | = | 412 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 26 | = | 206 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 52 | = | 103 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 103 | = | 52 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 206 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 412 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 1339 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 2678 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5356 ÷ 5356 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5356
1 x 5356 | = | 5356 |
2 x 2678 | = | 5356 |
4 x 1339 | = | 5356 |
13 x 412 | = | 5356 |
26 x 206 | = | 5356 |
52 x 103 | = | 5356 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5356
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 103 + 206 + 412 + 1339 + 2678 + 5356 = 10192
▶ ตัวประกอบของ 5356 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 103
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5356 = 2 x 2 x 13 x 103
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5356 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5356 = 22 x 13 x 103
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5356 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5356 = 22 x 13 x 103
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5356 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5356 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5356 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2678
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5356
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5356 แบบที่หนึ่ง
- 5356
- 52
- 4
- 2
- 2
- 13
- 4
- 103
- 52
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5356 แบบที่สอง
- 5356
- 2
- 2678
- 2
- 1339
- 13
- 103
ดังนั้น 5356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5356 =
2 x 2 x 13 x 103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5356 =
22 x 13 x 103 หรือ 22 x 131 x 1031
2. การแยกตัวประกอบของ 5356 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5356 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5356 นั้นก็คือ 2, 13, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5356
2)53562)267813)1339103)1031ดังนั้น 5356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5356 = 2 x 2 x 13 x 103หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5356 = 22 x 13 x 103 หรือ 22 x 131 x 1031วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5356
1แยกตัวประกอบของ 5356 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 10312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5356 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5356 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5356 นั้นก็คือ 2, 13, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5356
2
)5356
2
)2678
13
)1339
103
)103
1
ดังนั้น 5356 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5356 = 2 x 2 x 13 x 103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5356 = 22 x 13 x 103 หรือ 22 x 131 x 1031
1แยกตัวประกอบของ 5356 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 1031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5356 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5356 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇