ตัวประกอบของ 4852 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4852
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4852 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4852 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4852 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4852 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4852 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 1213, 2426, 4852
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4852 ÷ 1 | = | 4852 | เหลือเศษ 0 |
| 4852 ÷ 2 | = | 2426 | เหลือเศษ 0 |
| 4852 ÷ 4 | = | 1213 | เหลือเศษ 0 |
| 4852 ÷ 1213 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 4852 ÷ 2426 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4852 ÷ 4852 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4852
| 1 x 4852 | = | 4852 |
| 2 x 2426 | = | 4852 |
| 4 x 1213 | = | 4852 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4852
1 + 2 + 4 + 1213 + 2426 + 4852 = 8498
▶ ตัวประกอบของ 4852 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1213
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4852 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4852 = 2 x 2 x 1213
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4852 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4852 = 22 x 1213
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4852 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4852 = 22 x 1213
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4852 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4852 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4852 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2426
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4852
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4852 แบบที่หนึ่ง
- 4852
- 4
- 2
- 2
- 1213
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4852 แบบที่สอง
- 4852
- 2
- 2426
- 2
- 1213
ดังนั้น 4852 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4852 =
2 x 2 x 1213
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4852 =
22 x 1213 หรือ 22 x 12131
2. การแยกตัวประกอบของ 4852 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4852 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4852 นั้นก็คือ 2, 1213 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4852
2)48522)24261213)12131ดังนั้น 4852 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4852 = 2 x 2 x 1213หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง4852 = 22 x 1213 หรือ 22 x 12131วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4852
1แยกตัวประกอบของ 4852 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 121312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1213 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4852 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4852 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4852 นั้นก็คือ 2, 1213 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4852
2
)4852
2
)2426
1213
)1213
1
ดังนั้น 4852 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4852 = 2 x 2 x 1213
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4852 = 22 x 1213 หรือ 22 x 12131
1แยกตัวประกอบของ 4852 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 12131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1213 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4852 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4852 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
