ตัวประกอบของ 474617 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 474617
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 474617 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 474617 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 474617 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 474617 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 474617 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 13, 143, 3319, 36509, 43147, 474617
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
474617 ÷ 1 | = | 474617 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 11 | = | 43147 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 13 | = | 36509 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 143 | = | 3319 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 3319 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 36509 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 43147 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
474617 ÷ 474617 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 474617
1 x 474617 | = | 474617 |
11 x 43147 | = | 474617 |
13 x 36509 | = | 474617 |
143 x 3319 | = | 474617 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 474617
1 + 11 + 13 + 143 + 3319 + 36509 + 43147 + 474617 = 557760
▶ ตัวประกอบของ 474617 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 13, 3319
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 474617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474617 = 11 x 13 x 3319
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 474617 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 474617 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 474617 มา 1 คู่ เช่น 11 x 43147
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474617
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474617 แบบที่หนึ่ง
- 474617
- 143
- 11
- 13
- 3319
- 143
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474617 แบบที่สอง
- 474617
- 11
- 43147
- 13
- 3319
ดังนั้น 474617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474617 =
11 x 13 x 3319
2. การแยกตัวประกอบของ 474617 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 474617 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474617 นั้นก็คือ 11, 13, 3319 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474617
11)47461713)431473319)33191ดังนั้น 474617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้474617 = 11 x 13 x 3319วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 474617
1แยกตัวประกอบของ 474617 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 331912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3319 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474617 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 474617 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474617 นั้นก็คือ 11, 13, 3319 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474617
11
)474617
13
)43147
3319
)3319
1
ดังนั้น 474617 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474617 = 11 x 13 x 3319
1แยกตัวประกอบของ 474617 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 33191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3319 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474617 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 474617 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇