ตัวประกอบของ 25597 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25597
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25597 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25597 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25597 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25597 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25597 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 13, 143, 179, 1969, 2327, 25597
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25597 ÷ 1 | = | 25597 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 11 | = | 2327 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 13 | = | 1969 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 143 | = | 179 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 179 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 1969 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 2327 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 25597 ÷ 25597 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25597
| 1 x 25597 | = | 25597 |
| 11 x 2327 | = | 25597 |
| 13 x 1969 | = | 25597 |
| 143 x 179 | = | 25597 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25597
1 + 11 + 13 + 143 + 179 + 1969 + 2327 + 25597 = 30240
▶ ตัวประกอบของ 25597 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 13, 179
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25597 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25597 = 11 x 13 x 179
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25597 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25597 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25597 มา 1 คู่ เช่น 11 x 2327
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25597
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25597 แบบที่หนึ่ง
- 25597
- 143
- 11
- 13
- 179
- 143
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25597 แบบที่สอง
- 25597
- 11
- 2327
- 13
- 179
ดังนั้น 25597 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25597 =
11 x 13 x 179
2. การแยกตัวประกอบของ 25597 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25597 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25597 นั้นก็คือ 11, 13, 179 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25597
11)2559713)2327179)1791ดังนั้น 25597 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25597 = 11 x 13 x 179วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25597
1แยกตัวประกอบของ 25597 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 17912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 179 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25597 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25597 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25597 นั้นก็คือ 11, 13, 179 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25597
11
)25597
13
)2327
179
)179
1
ดังนั้น 25597 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25597 = 11 x 13 x 179
1แยกตัวประกอบของ 25597 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 1791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 179 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25597 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25597 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇