โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25592 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25592

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25592 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25592 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 457, 914, 1828, 3199, 3656, 6398, 12796, 25592
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25592 ÷ 1=25592เหลือเศษ 0
25592 ÷ 2=12796เหลือเศษ 0
25592 ÷ 4=6398เหลือเศษ 0
25592 ÷ 7=3656เหลือเศษ 0
25592 ÷ 8=3199เหลือเศษ 0
25592 ÷ 14=1828เหลือเศษ 0
25592 ÷ 28=914เหลือเศษ 0
25592 ÷ 56=457เหลือเศษ 0
25592 ÷ 457=56เหลือเศษ 0
25592 ÷ 914=28เหลือเศษ 0
25592 ÷ 1828=14เหลือเศษ 0
25592 ÷ 3199=8เหลือเศษ 0
25592 ÷ 3656=7เหลือเศษ 0
25592 ÷ 6398=4เหลือเศษ 0
25592 ÷ 12796=2เหลือเศษ 0
25592 ÷ 25592=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25592
1 x 25592
2 x 12796
4 x 6398
7 x 3656
8 x 3199
14 x 1828
28 x 914
56 x 457
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25592
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 457 + 914 + 1828 + 3199 + 3656 + 6398 + 12796 + 25592 = 54960
ตัวประกอบของ 25592 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 457
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25592 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25592 = 2 x 2 x 2 x 7 x 457
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25592 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25592 = 23 x 7 x 457
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25592 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25592 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25592 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12796
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25592
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25592 แบบที่หนึ่ง
  • 25592
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 457

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25592 แบบที่สอง
  • 25592
    • 2
    • 12796
      • 2
      • 6398
        • 2
        • 3199
          • 7
          • 457
ดังนั้น 25592 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25592 = 2 x 2 x 2 x 7 x 457
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25592 = 23 x 7 x 457 หรือ 23 x 71 x 4571

2. การแยกตัวประกอบของ 25592 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25592 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25592 นั้นก็คือ 2, 7, 457 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25592

2
)25592
2
)12796
2
)6398
7
)3199
457
)457
1
ดังนั้น 25592 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25592 = 2 x 2 x 2 x 7 x 457
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25592 = 23 x 7 x 457 หรือ 23 x 71 x 4571

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25592

1แยกตัวประกอบของ 25592 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 4571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 457 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25592 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25592 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇