ตัวประกอบของ 18633 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 18633
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 18633 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 18633 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 18633 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 18633 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 18633 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 6211, 18633
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 18633 ÷ 1 | = | 18633 | เหลือเศษ 0 |
| 18633 ÷ 3 | = | 6211 | เหลือเศษ 0 |
| 18633 ÷ 6211 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 18633 ÷ 18633 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 18633
| 1 x 18633 | = | 18633 |
| 3 x 6211 | = | 18633 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 18633
1 + 3 + 6211 + 18633 = 24848
▶ ตัวประกอบของ 18633 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 6211
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 18633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18633 = 3 x 6211
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 18633 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 18633 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 18633 มา 1 คู่ เช่น 3 x 6211
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18633
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18633
- 18633
- 3
- 6211
ดังนั้น 18633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18633 =
3 x 6211
2. การแยกตัวประกอบของ 18633 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 18633 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18633 นั้นก็คือ 3, 6211 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18633
3)186336211)62111ดังนั้น 18633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้18633 = 3 x 6211วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 18633
1แยกตัวประกอบของ 18633 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 621112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6211 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18633 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 18633 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18633 นั้นก็คือ 3, 6211 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18633
3
)18633
6211
)6211
1
ดังนั้น 18633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18633 = 3 x 6211
1แยกตัวประกอบของ 18633 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 62111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6211 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18633 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 18633 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
