ตัวประกอบของ 11546 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11546
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 11546 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 11546 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 11546 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 11546 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 11546 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 46, 251, 502, 5773, 11546
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 11546 ÷ 1 | = | 11546 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 2 | = | 5773 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 23 | = | 502 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 46 | = | 251 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 251 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 502 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 5773 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 11546 ÷ 11546 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11546
| 1 x 11546 | = | 11546 |
| 2 x 5773 | = | 11546 |
| 23 x 502 | = | 11546 |
| 46 x 251 | = | 11546 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11546
1 + 2 + 23 + 46 + 251 + 502 + 5773 + 11546 = 18144
▶ ตัวประกอบของ 11546 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 251
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 11546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11546 = 2 x 23 x 251
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 11546 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11546 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11546 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5773
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11546
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11546 แบบที่หนึ่ง
- 11546
- 46
- 2
- 23
- 251
- 46
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11546 แบบที่สอง
- 11546
- 2
- 5773
- 23
- 251
ดังนั้น 11546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11546 =
2 x 23 x 251
2. การแยกตัวประกอบของ 11546 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 11546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11546 นั้นก็คือ 2, 23, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11546
2)1154623)5773251)2511ดังนั้น 11546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้11546 = 2 x 23 x 251วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11546
1แยกตัวประกอบของ 11546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 25112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 11546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11546 นั้นก็คือ 2, 23, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11546
2
)11546
23
)5773
251
)251
1
ดังนั้น 11546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11546 = 2 x 23 x 251
1แยกตัวประกอบของ 11546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 2511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11546 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
