โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 11496 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11496

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 11496 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 11496 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 479, 958, 1437, 1916, 2874, 3832, 5748, 11496
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
11496 ÷ 1=11496เหลือเศษ 0
11496 ÷ 2=5748เหลือเศษ 0
11496 ÷ 3=3832เหลือเศษ 0
11496 ÷ 4=2874เหลือเศษ 0
11496 ÷ 6=1916เหลือเศษ 0
11496 ÷ 8=1437เหลือเศษ 0
11496 ÷ 12=958เหลือเศษ 0
11496 ÷ 24=479เหลือเศษ 0
11496 ÷ 479=24เหลือเศษ 0
11496 ÷ 958=12เหลือเศษ 0
11496 ÷ 1437=8เหลือเศษ 0
11496 ÷ 1916=6เหลือเศษ 0
11496 ÷ 2874=4เหลือเศษ 0
11496 ÷ 3832=3เหลือเศษ 0
11496 ÷ 5748=2เหลือเศษ 0
11496 ÷ 11496=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11496
1 x 11496
2 x 5748
3 x 3832
4 x 2874
6 x 1916
8 x 1437
12 x 958
24 x 479
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11496
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 479 + 958 + 1437 + 1916 + 2874 + 3832 + 5748 + 11496 = 28800
ตัวประกอบของ 11496 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 479
การแยกตัวประกอบคืออะไร

11496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

11496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 479
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11496 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11496 = 23 x 3 x 479
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 11496 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11496 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11496 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5748
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11496
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11496 แบบที่หนึ่ง
  • 11496
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 479

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11496 แบบที่สอง
  • 11496
    • 2
    • 5748
      • 2
      • 2874
        • 2
        • 1437
          • 3
          • 479
ดังนั้น 11496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 479
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11496 = 23 x 3 x 479 หรือ 23 x 31 x 4791

2. การแยกตัวประกอบของ 11496 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 11496 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11496 นั้นก็คือ 2, 3, 479 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11496

2
)11496
2
)5748
2
)2874
3
)1437
479
)479
1
ดังนั้น 11496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 479
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11496 = 23 x 3 x 479 หรือ 23 x 31 x 4791

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11496

1แยกตัวประกอบของ 11496 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 4791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 479 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11496 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11496 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇