ตัวประกอบของ 6676 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6676
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6676 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6676 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6676 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6676 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6676 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 1669, 3338, 6676
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6676 ÷ 1 | = | 6676 | เหลือเศษ 0 |
6676 ÷ 2 | = | 3338 | เหลือเศษ 0 |
6676 ÷ 4 | = | 1669 | เหลือเศษ 0 |
6676 ÷ 1669 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
6676 ÷ 3338 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
6676 ÷ 6676 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6676
1 x 6676 | = | 6676 |
2 x 3338 | = | 6676 |
4 x 1669 | = | 6676 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6676
1 + 2 + 4 + 1669 + 3338 + 6676 = 11690
▶ ตัวประกอบของ 6676 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1669
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6676 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6676 = 2 x 2 x 1669
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6676 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6676 = 22 x 1669
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6676 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6676 = 22 x 1669
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6676 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6676 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6676 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3338
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6676
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6676 แบบที่หนึ่ง
- 6676
- 4
- 2
- 2
- 1669
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6676 แบบที่สอง
- 6676
- 2
- 3338
- 2
- 1669
ดังนั้น 6676 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6676 =
2 x 2 x 1669
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6676 =
22 x 1669 หรือ 22 x 16691
2. การแยกตัวประกอบของ 6676 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6676 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6676 นั้นก็คือ 2, 1669 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6676
2)66762)33381669)16691ดังนั้น 6676 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6676 = 2 x 2 x 1669หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง6676 = 22 x 1669 หรือ 22 x 16691วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6676
1แยกตัวประกอบของ 6676 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 166912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1669 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6676 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6676 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6676 นั้นก็คือ 2, 1669 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6676
2
)6676
2
)3338
1669
)1669
1
ดังนั้น 6676 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6676 = 2 x 2 x 1669
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6676 = 22 x 1669 หรือ 22 x 16691
1แยกตัวประกอบของ 6676 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 16691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1669 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6676 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6676 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇