ตัวประกอบของ 6627 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6627
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6627 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6627 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6627 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6627 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6627 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 47, 141, 2209, 6627
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6627 ÷ 1 | = | 6627 | เหลือเศษ 0 |
6627 ÷ 3 | = | 2209 | เหลือเศษ 0 |
6627 ÷ 47 | = | 141 | เหลือเศษ 0 |
6627 ÷ 141 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
6627 ÷ 2209 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
6627 ÷ 6627 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6627
1 x 6627 | = | 6627 |
3 x 2209 | = | 6627 |
47 x 141 | = | 6627 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6627
1 + 3 + 47 + 141 + 2209 + 6627 = 9028
▶ ตัวประกอบของ 6627 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 47
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6627 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6627 = 3 x 47 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6627 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6627 = 3 x 472
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6627 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6627 = 3 x 472
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6627 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6627 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6627 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2209
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6627
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6627 แบบที่หนึ่ง
- 6627
- 47
- 141
- 3
- 47
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6627 แบบที่สอง
- 6627
- 3
- 2209
- 47
- 47
ดังนั้น 6627 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6627 =
3 x 47 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6627 =
3 x 472 หรือ 31 x 472
2. การแยกตัวประกอบของ 6627 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6627 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6627 นั้นก็คือ 3, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6627
3)662747)220947)471ดังนั้น 6627 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6627 = 3 x 47 x 47หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง6627 = 3 x 472 หรือ 31 x 472วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6627
1แยกตัวประกอบของ 6627 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 4722ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6627 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6627 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6627 นั้นก็คือ 3, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6627
3
)6627
47
)2209
47
)47
1
ดังนั้น 6627 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6627 = 3 x 47 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6627 = 3 x 472 หรือ 31 x 472
1แยกตัวประกอบของ 6627 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 472
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6627 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6627 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇