ตัวประกอบของ 474650 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 474650
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 474650 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 474650 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 474650 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 474650 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 474650 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 11, 22, 25, 50, 55, 110, 275, 550, 863, 1726, 4315, 8630, 9493, 18986, 21575, 43150, 47465, 94930, 237325, 474650
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
474650 ÷ 1 | = | 474650 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 2 | = | 237325 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 5 | = | 94930 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 10 | = | 47465 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 11 | = | 43150 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 22 | = | 21575 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 25 | = | 18986 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 50 | = | 9493 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 55 | = | 8630 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 110 | = | 4315 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 275 | = | 1726 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 550 | = | 863 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 863 | = | 550 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 1726 | = | 275 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 4315 | = | 110 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 8630 | = | 55 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 9493 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 18986 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 21575 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 43150 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 47465 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 94930 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 237325 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
474650 ÷ 474650 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 474650
1 x 474650 | = | 474650 |
2 x 237325 | = | 474650 |
5 x 94930 | = | 474650 |
10 x 47465 | = | 474650 |
11 x 43150 | = | 474650 |
22 x 21575 | = | 474650 |
25 x 18986 | = | 474650 |
50 x 9493 | = | 474650 |
55 x 8630 | = | 474650 |
110 x 4315 | = | 474650 |
275 x 1726 | = | 474650 |
550 x 863 | = | 474650 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 474650
1 + 2 + 5 + 10 + 11 + 22 + 25 + 50 + 55 + 110 + 275 + 550 + 863 + 1726 + 4315 + 8630 + 9493 + 18986 + 21575 + 43150 + 47465 + 94930 + 237325 + 474650 = 964224
▶ ตัวประกอบของ 474650 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 11, 863
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 474650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474650 = 2 x 5 x 5 x 11 x 863
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 474650 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
474650 = 2 x 52 x 11 x 863
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 474650 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
474650 = 2 x 52 x 11 x 863
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 474650 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 474650 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 474650 มา 1 คู่ เช่น 2 x 237325
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474650
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474650 แบบที่หนึ่ง
- 474650
- 550
- 22
- 2
- 11
- 25
- 5
- 5
- 22
- 863
- 550
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474650 แบบที่สอง
- 474650
- 2
- 237325
- 5
- 47465
- 5
- 9493
- 11
- 863
ดังนั้น 474650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474650 =
2 x 5 x 5 x 11 x 863
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
474650 =
2 x 52 x 11 x 863 หรือ 21 x 52 x 111 x 8631
2. การแยกตัวประกอบของ 474650 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 474650 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474650 นั้นก็คือ 2, 5, 11, 863 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474650
2)4746505)2373255)4746511)9493863)8631ดังนั้น 474650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้474650 = 2 x 5 x 5 x 11 x 863หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง474650 = 2 x 52 x 11 x 863 หรือ 21 x 52 x 111 x 8631วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 474650
1แยกตัวประกอบของ 474650 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 111 x 86312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 863 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474650 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 474650 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474650 นั้นก็คือ 2, 5, 11, 863 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474650
2
)474650
5
)237325
5
)47465
11
)9493
863
)863
1
ดังนั้น 474650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474650 = 2 x 5 x 5 x 11 x 863
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
474650 = 2 x 52 x 11 x 863 หรือ 21 x 52 x 111 x 8631
1แยกตัวประกอบของ 474650 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 111 x 8631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 863 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474650 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 474650 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇