ตัวประกอบของ 474626 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 474626
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 474626 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 474626 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 474626 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 474626 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 474626 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 237313, 474626
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 474626 ÷ 1 | = | 474626 | เหลือเศษ 0 |
| 474626 ÷ 2 | = | 237313 | เหลือเศษ 0 |
| 474626 ÷ 237313 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 474626 ÷ 474626 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 474626
| 1 x 474626 | = | 474626 |
| 2 x 237313 | = | 474626 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 474626
1 + 2 + 237313 + 474626 = 711942
▶ ตัวประกอบของ 474626 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 237313
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 474626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474626 = 2 x 237313
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 474626 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 474626 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 474626 มา 1 คู่ เช่น 2 x 237313
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474626
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 474626
- 474626
- 2
- 237313
ดังนั้น 474626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474626 =
2 x 237313
2. การแยกตัวประกอบของ 474626 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 474626 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474626 นั้นก็คือ 2, 237313 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474626
2)474626237313)2373131ดังนั้น 474626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้474626 = 2 x 237313วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 474626
1แยกตัวประกอบของ 474626 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 23731312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 237313 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474626 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 474626 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 474626 นั้นก็คือ 2, 237313 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 474626
2
)474626
237313
)237313
1
ดังนั้น 474626 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
474626 = 2 x 237313
1แยกตัวประกอบของ 474626 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 2373131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 237313 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 474626 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 474626 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇