ตัวประกอบของ 4434 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4434
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4434 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4434 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4434 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4434 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4434 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 739, 1478, 2217, 4434
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4434 ÷ 1 | = | 4434 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 2 | = | 2217 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 3 | = | 1478 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 6 | = | 739 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 739 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 1478 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 2217 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4434 ÷ 4434 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4434
| 1 x 4434 | = | 4434 |
| 2 x 2217 | = | 4434 |
| 3 x 1478 | = | 4434 |
| 6 x 739 | = | 4434 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4434
1 + 2 + 3 + 6 + 739 + 1478 + 2217 + 4434 = 8880
▶ ตัวประกอบของ 4434 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 739
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4434 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4434 = 2 x 3 x 739
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4434 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4434 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4434 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2217
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4434
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4434 แบบที่หนึ่ง
- 4434
- 6
- 2
- 3
- 739
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4434 แบบที่สอง
- 4434
- 2
- 2217
- 3
- 739
ดังนั้น 4434 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4434 =
2 x 3 x 739
2. การแยกตัวประกอบของ 4434 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4434 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4434 นั้นก็คือ 2, 3, 739 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4434
2)44343)2217739)7391ดังนั้น 4434 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4434 = 2 x 3 x 739วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4434
1แยกตัวประกอบของ 4434 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 73912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 739 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4434 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4434 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4434 นั้นก็คือ 2, 3, 739 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4434
2
)4434
3
)2217
739
)739
1
ดังนั้น 4434 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4434 = 2 x 3 x 739
1แยกตัวประกอบของ 4434 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 7391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 739 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4434 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4434 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇