โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 3256 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3256

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 3256 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 3256 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 11, 22, 37, 44, 74, 88, 148, 296, 407, 814, 1628, 3256
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3256 ÷ 1=3256เหลือเศษ 0
3256 ÷ 2=1628เหลือเศษ 0
3256 ÷ 4=814เหลือเศษ 0
3256 ÷ 8=407เหลือเศษ 0
3256 ÷ 11=296เหลือเศษ 0
3256 ÷ 22=148เหลือเศษ 0
3256 ÷ 37=88เหลือเศษ 0
3256 ÷ 44=74เหลือเศษ 0
3256 ÷ 74=44เหลือเศษ 0
3256 ÷ 88=37เหลือเศษ 0
3256 ÷ 148=22เหลือเศษ 0
3256 ÷ 296=11เหลือเศษ 0
3256 ÷ 407=8เหลือเศษ 0
3256 ÷ 814=4เหลือเศษ 0
3256 ÷ 1628=2เหลือเศษ 0
3256 ÷ 3256=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3256
1 x 3256
2 x 1628
4 x 814
8 x 407
11 x 296
22 x 148
37 x 88
44 x 74
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3256
1 + 2 + 4 + 8 + 11 + 22 + 37 + 44 + 74 + 88 + 148 + 296 + 407 + 814 + 1628 + 3256 = 6840
ตัวประกอบของ 3256 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 11, 37
การแยกตัวประกอบคืออะไร

3256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

3256 = 2 x 2 x 2 x 11 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3256 = 23 x 11 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 3256 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3256 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3256 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1628
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3256
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3256 แบบที่หนึ่ง
  • 3256
    • 44
      • 4
        • 2
        • 2
      • 11
    • 74
      • 2
      • 37

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3256 แบบที่สอง
  • 3256
    • 2
    • 1628
      • 2
      • 814
        • 2
        • 407
          • 11
          • 37
ดังนั้น 3256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3256 = 2 x 2 x 2 x 11 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3256 = 23 x 11 x 37 หรือ 23 x 111 x 371

2. การแยกตัวประกอบของ 3256 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 3256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3256 นั้นก็คือ 2, 11, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3256

2
)3256
2
)1628
2
)814
11
)407
37
)37
1
ดังนั้น 3256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3256 = 2 x 2 x 2 x 11 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3256 = 23 x 11 x 37 หรือ 23 x 111 x 371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3256

1แยกตัวประกอบของ 3256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 111 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3256 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3256 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇