ตัวประกอบของ 23383 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23383
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23383 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23383 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 23383 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23383 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23383 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 67, 349, 23383
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 23383 ÷ 1 | = | 23383 | เหลือเศษ 0 |
| 23383 ÷ 67 | = | 349 | เหลือเศษ 0 |
| 23383 ÷ 349 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
| 23383 ÷ 23383 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23383
| 1 x 23383 | = | 23383 |
| 67 x 349 | = | 23383 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23383
1 + 67 + 349 + 23383 = 23800
▶ ตัวประกอบของ 23383 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
67, 349
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23383 = 67 x 349
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23383 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23383 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23383 มา 1 คู่ เช่น 67 x 349
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23383
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23383
- 23383
- 67
- 349
ดังนั้น 23383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23383 =
67 x 349
2. การแยกตัวประกอบของ 23383 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23383 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23383 นั้นก็คือ 67, 349 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23383
67)23383349)3491ดังนั้น 23383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23383 = 67 x 349วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23383
1แยกตัวประกอบของ 23383 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 671 x 34912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 349 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23383 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23383 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23383 นั้นก็คือ 67, 349 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23383
67
)23383
349
)349
1
ดังนั้น 23383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23383 = 67 x 349
1แยกตัวประกอบของ 23383 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 671 x 3491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 349 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23383 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23383 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
