ตัวประกอบของ 160038 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 160038
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 160038 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 160038 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 160038 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 160038 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 160038 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 17, 18, 34, 51, 102, 153, 306, 523, 1046, 1569, 3138, 4707, 8891, 9414, 17782, 26673, 53346, 80019, 160038
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
160038 ÷ 1 | = | 160038 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 2 | = | 80019 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 3 | = | 53346 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 6 | = | 26673 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 9 | = | 17782 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 17 | = | 9414 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 18 | = | 8891 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 34 | = | 4707 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 51 | = | 3138 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 102 | = | 1569 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 153 | = | 1046 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 306 | = | 523 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 523 | = | 306 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 1046 | = | 153 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 1569 | = | 102 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 3138 | = | 51 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 4707 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 8891 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 9414 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 17782 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 26673 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 53346 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 80019 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
160038 ÷ 160038 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 160038
1 x 160038 | = | 160038 |
2 x 80019 | = | 160038 |
3 x 53346 | = | 160038 |
6 x 26673 | = | 160038 |
9 x 17782 | = | 160038 |
17 x 9414 | = | 160038 |
18 x 8891 | = | 160038 |
34 x 4707 | = | 160038 |
51 x 3138 | = | 160038 |
102 x 1569 | = | 160038 |
153 x 1046 | = | 160038 |
306 x 523 | = | 160038 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 160038
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 17 + 18 + 34 + 51 + 102 + 153 + 306 + 523 + 1046 + 1569 + 3138 + 4707 + 8891 + 9414 + 17782 + 26673 + 53346 + 80019 + 160038 = 367848
▶ ตัวประกอบของ 160038 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 17, 523
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 160038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160038 = 2 x 3 x 3 x 17 x 523
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160038 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160038 = 2 x 32 x 17 x 523
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 160038 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
160038 = 2 x 32 x 17 x 523
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 160038 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 160038 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 160038 มา 1 คู่ เช่น 2 x 80019
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160038
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160038 แบบที่หนึ่ง
- 160038
- 306
- 17
- 18
- 3
- 6
- 2
- 3
- 523
- 306
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 160038 แบบที่สอง
- 160038
- 2
- 80019
- 3
- 26673
- 3
- 8891
- 17
- 523
ดังนั้น 160038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160038 =
2 x 3 x 3 x 17 x 523
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160038 =
2 x 32 x 17 x 523 หรือ 21 x 32 x 171 x 5231
2. การแยกตัวประกอบของ 160038 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 160038 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160038 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 523 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160038
2)1600383)800193)2667317)8891523)5231ดังนั้น 160038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้160038 = 2 x 3 x 3 x 17 x 523หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง160038 = 2 x 32 x 17 x 523 หรือ 21 x 32 x 171 x 5231วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 160038
1แยกตัวประกอบของ 160038 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 171 x 52312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 523 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160038 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 160038 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 160038 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 523 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 160038
2
)160038
3
)80019
3
)26673
17
)8891
523
)523
1
ดังนั้น 160038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
160038 = 2 x 3 x 3 x 17 x 523
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
160038 = 2 x 32 x 17 x 523 หรือ 21 x 32 x 171 x 5231
1แยกตัวประกอบของ 160038 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 171 x 5231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 523 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 160038 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 160038 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇