โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 159972 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 159972

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 159972 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 159972 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 13331, 26662, 39993, 53324, 79986, 159972
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
159972 ÷ 1=159972เหลือเศษ 0
159972 ÷ 2=79986เหลือเศษ 0
159972 ÷ 3=53324เหลือเศษ 0
159972 ÷ 4=39993เหลือเศษ 0
159972 ÷ 6=26662เหลือเศษ 0
159972 ÷ 12=13331เหลือเศษ 0
159972 ÷ 13331=12เหลือเศษ 0
159972 ÷ 26662=6เหลือเศษ 0
159972 ÷ 39993=4เหลือเศษ 0
159972 ÷ 53324=3เหลือเศษ 0
159972 ÷ 79986=2เหลือเศษ 0
159972 ÷ 159972=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 159972
1 x 159972
2 x 79986
3 x 53324
4 x 39993
6 x 26662
12 x 13331
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 159972
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 13331 + 26662 + 39993 + 53324 + 79986 + 159972 = 373296
ตัวประกอบของ 159972 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 13331
การแยกตัวประกอบคืออะไร

159972 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

159972 = 2 x 2 x 3 x 13331
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 159972 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
159972 = 22 x 3 x 13331
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 159972 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 159972 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 159972 มา 1 คู่ เช่น 2 x 79986
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 159972
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 159972 แบบที่หนึ่ง
  • 159972
    • 12
      • 3
      • 4
        • 2
        • 2
    • 13331

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 159972 แบบที่สอง
  • 159972
    • 2
    • 79986
      • 2
      • 39993
        • 3
        • 13331
ดังนั้น 159972 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
159972 = 2 x 2 x 3 x 13331
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
159972 = 22 x 3 x 13331 หรือ 22 x 31 x 133311

2. การแยกตัวประกอบของ 159972 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 159972 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 159972 นั้นก็คือ 2, 3, 13331 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 159972

2
)159972
2
)79986
3
)39993
13331
)13331
1
ดังนั้น 159972 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
159972 = 2 x 2 x 3 x 13331
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
159972 = 22 x 3 x 13331 หรือ 22 x 31 x 133311

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 159972

1แยกตัวประกอบของ 159972 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 133311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13331 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 159972 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 159972 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇