โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 11300 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11300

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 11300 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 11300 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 25, 50, 100, 113, 226, 452, 565, 1130, 2260, 2825, 5650, 11300
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
11300 ÷ 1=11300เหลือเศษ 0
11300 ÷ 2=5650เหลือเศษ 0
11300 ÷ 4=2825เหลือเศษ 0
11300 ÷ 5=2260เหลือเศษ 0
11300 ÷ 10=1130เหลือเศษ 0
11300 ÷ 20=565เหลือเศษ 0
11300 ÷ 25=452เหลือเศษ 0
11300 ÷ 50=226เหลือเศษ 0
11300 ÷ 100=113เหลือเศษ 0
11300 ÷ 113=100เหลือเศษ 0
11300 ÷ 226=50เหลือเศษ 0
11300 ÷ 452=25เหลือเศษ 0
11300 ÷ 565=20เหลือเศษ 0
11300 ÷ 1130=10เหลือเศษ 0
11300 ÷ 2260=5เหลือเศษ 0
11300 ÷ 2825=4เหลือเศษ 0
11300 ÷ 5650=2เหลือเศษ 0
11300 ÷ 11300=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11300
1 x 11300
2 x 5650
4 x 2825
5 x 2260
10 x 1130
20 x 565
25 x 452
50 x 226
100 x 113
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11300
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 25 + 50 + 100 + 113 + 226 + 452 + 565 + 1130 + 2260 + 2825 + 5650 + 11300 = 24738
ตัวประกอบของ 11300 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 113
การแยกตัวประกอบคืออะไร

11300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

11300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 113
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11300 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11300 = 22 x 52 x 113
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 11300 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11300 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11300 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5650
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11300
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11300 แบบที่หนึ่ง
  • 11300
    • 100
      • 10
        • 2
        • 5
      • 10
        • 2
        • 5
    • 113

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11300 แบบที่สอง
  • 11300
    • 2
    • 5650
      • 2
      • 2825
        • 5
        • 565
          • 5
          • 113
ดังนั้น 11300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 113
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11300 = 22 x 52 x 113 หรือ 22 x 52 x 1131

2. การแยกตัวประกอบของ 11300 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 11300 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11300 นั้นก็คือ 2, 5, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11300

2
)11300
2
)5650
5
)2825
5
)565
113
)113
1
ดังนั้น 11300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 113
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11300 = 22 x 52 x 113 หรือ 22 x 52 x 1131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11300

1แยกตัวประกอบของ 11300 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 52 x 1131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11300 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11300 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇