ตัวประกอบของ 10464 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10464
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10464 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10464 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10464 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10464 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10464 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 16, 24, 32, 48, 96, 109, 218, 327, 436, 654, 872, 1308, 1744, 2616, 3488, 5232, 10464
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10464 ÷ 1 | = | 10464 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 2 | = | 5232 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 3 | = | 3488 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 4 | = | 2616 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 6 | = | 1744 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 8 | = | 1308 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 12 | = | 872 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 16 | = | 654 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 24 | = | 436 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 32 | = | 327 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 48 | = | 218 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 96 | = | 109 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 109 | = | 96 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 218 | = | 48 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 327 | = | 32 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 436 | = | 24 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 654 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 872 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 1308 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 1744 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 2616 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 3488 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 5232 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10464 ÷ 10464 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10464
1 x 10464 | = | 10464 |
2 x 5232 | = | 10464 |
3 x 3488 | = | 10464 |
4 x 2616 | = | 10464 |
6 x 1744 | = | 10464 |
8 x 1308 | = | 10464 |
12 x 872 | = | 10464 |
16 x 654 | = | 10464 |
24 x 436 | = | 10464 |
32 x 327 | = | 10464 |
48 x 218 | = | 10464 |
96 x 109 | = | 10464 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10464
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 16 + 24 + 32 + 48 + 96 + 109 + 218 + 327 + 436 + 654 + 872 + 1308 + 1744 + 2616 + 3488 + 5232 + 10464 = 27720
▶ ตัวประกอบของ 10464 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 109
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10464 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 109
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10464 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10464 = 25 x 3 x 109
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10464 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10464 = 25 x 3 x 109
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10464 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10464 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10464 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5232
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10464
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10464 แบบที่หนึ่ง
- 10464
- 96
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 8
- 109
- 96
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10464 แบบที่สอง
- 10464
- 2
- 5232
- 2
- 2616
- 2
- 1308
- 2
- 654
- 2
- 327
- 3
- 109
ดังนั้น 10464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10464 =
2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10464 =
25 x 3 x 109 หรือ 25 x 31 x 1091
2. การแยกตัวประกอบของ 10464 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10464 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10464 นั้นก็คือ 2, 3, 109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10464
2)104642)52322)26162)13082)6543)327109)1091ดังนั้น 10464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10464 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 109หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง10464 = 25 x 3 x 109 หรือ 25 x 31 x 1091วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10464
1แยกตัวประกอบของ 10464 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 31 x 10912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10464 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10464 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10464 นั้นก็คือ 2, 3, 109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10464
2
)10464
2
)5232
2
)2616
2
)1308
2
)654
3
)327
109
)109
1
ดังนั้น 10464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10464 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 109
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10464 = 25 x 3 x 109 หรือ 25 x 31 x 1091
1แยกตัวประกอบของ 10464 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 31 x 1091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10464 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10464 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇