ตัวประกอบของ 100625 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100625
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 100625 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 100625 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 100625 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 100625 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 100625 มีทั้งหมด 20 ตัวคือ 1, 5, 7, 23, 25, 35, 115, 125, 161, 175, 575, 625, 805, 875, 2875, 4025, 4375, 14375, 20125, 100625
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 100625 ÷ 1 | = | 100625 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 5 | = | 20125 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 7 | = | 14375 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 23 | = | 4375 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 25 | = | 4025 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 35 | = | 2875 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 115 | = | 875 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 125 | = | 805 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 161 | = | 625 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 175 | = | 575 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 575 | = | 175 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 625 | = | 161 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 805 | = | 125 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 875 | = | 115 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 2875 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 4025 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 4375 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 14375 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 20125 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 100625 ÷ 100625 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100625
| 1 x 100625 | = | 100625 |
| 5 x 20125 | = | 100625 |
| 7 x 14375 | = | 100625 |
| 23 x 4375 | = | 100625 |
| 25 x 4025 | = | 100625 |
| 35 x 2875 | = | 100625 |
| 115 x 875 | = | 100625 |
| 125 x 805 | = | 100625 |
| 161 x 625 | = | 100625 |
| 175 x 575 | = | 100625 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100625
1 + 5 + 7 + 23 + 25 + 35 + 115 + 125 + 161 + 175 + 575 + 625 + 805 + 875 + 2875 + 4025 + 4375 + 14375 + 20125 + 100625 = 149952
▶ ตัวประกอบของ 100625 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 23
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 100625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100625 = 5 x 5 x 5 x 5 x 7 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 100625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
100625 = 54 x 7 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 100625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
100625 = 54 x 7 x 23
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 100625 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100625 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100625 มา 1 คู่ เช่น 5 x 20125
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100625
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100625 แบบที่หนึ่ง
- 100625
- 175
- 7
- 25
- 5
- 5
- 575
- 23
- 25
- 5
- 5
- 175
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100625 แบบที่สอง
- 100625
- 5
- 20125
- 5
- 4025
- 5
- 805
- 5
- 161
- 7
- 23
ดังนั้น 100625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100625 =
5 x 5 x 5 x 5 x 7 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100625 =
54 x 7 x 23 หรือ 54 x 71 x 231
2. การแยกตัวประกอบของ 100625 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 100625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100625 นั้นก็คือ 5, 7, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100625
5)1006255)201255)40255)8057)16123)231ดังนั้น 100625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้100625 = 5 x 5 x 5 x 5 x 7 x 23หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง100625 = 54 x 7 x 23 หรือ 54 x 71 x 231วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100625
1แยกตัวประกอบของ 100625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 54 x 71 x 2312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 x 2 = 20✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100625 มีทั้งหมด 20 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 100625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100625 นั้นก็คือ 5, 7, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100625
5
)100625
5
)20125
5
)4025
5
)805
7
)161
23
)23
1
ดังนั้น 100625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100625 = 5 x 5 x 5 x 5 x 7 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
100625 = 54 x 7 x 23 หรือ 54 x 71 x 231
1แยกตัวประกอบของ 100625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 54 x 71 x 231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 x 2 = 20✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100625 มีทั้งหมด 20 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100625 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
