ตัวประกอบของ 100487 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100487
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 100487 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 100487 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 100487 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 100487 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 100487 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 17, 23, 257, 391, 4369, 5911, 100487
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 100487 ÷ 1 | = | 100487 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 17 | = | 5911 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 23 | = | 4369 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 257 | = | 391 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 391 | = | 257 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 4369 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 5911 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 100487 ÷ 100487 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100487
| 1 x 100487 | = | 100487 |
| 17 x 5911 | = | 100487 |
| 23 x 4369 | = | 100487 |
| 257 x 391 | = | 100487 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100487
1 + 17 + 23 + 257 + 391 + 4369 + 5911 + 100487 = 111456
▶ ตัวประกอบของ 100487 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
17, 23, 257
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 100487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100487 = 17 x 23 x 257
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 100487 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100487 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100487 มา 1 คู่ เช่น 17 x 5911
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100487
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100487 แบบที่หนึ่ง
- 100487
- 257
- 391
- 17
- 23
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100487 แบบที่สอง
- 100487
- 17
- 5911
- 23
- 257
ดังนั้น 100487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100487 =
17 x 23 x 257
2. การแยกตัวประกอบของ 100487 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 100487 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100487 นั้นก็คือ 17, 23, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100487
17)10048723)5911257)2571ดังนั้น 100487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้100487 = 17 x 23 x 257วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100487
1แยกตัวประกอบของ 100487 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 231 x 25712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100487 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 100487 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100487 นั้นก็คือ 17, 23, 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100487
17
)100487
23
)5911
257
)257
1
ดังนั้น 100487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100487 = 17 x 23 x 257
1แยกตัวประกอบของ 100487 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 231 x 2571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100487 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100487 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
