ตัวประกอบของ 100037 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 100037
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 100037 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 100037 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 100037 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 100037 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 100037 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 31, 217, 461, 3227, 14291, 100037
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
100037 ÷ 1 | = | 100037 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 7 | = | 14291 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 31 | = | 3227 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 217 | = | 461 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 461 | = | 217 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 3227 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 14291 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
100037 ÷ 100037 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 100037
1 x 100037 | = | 100037 |
7 x 14291 | = | 100037 |
31 x 3227 | = | 100037 |
217 x 461 | = | 100037 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 100037
1 + 7 + 31 + 217 + 461 + 3227 + 14291 + 100037 = 118272
▶ ตัวประกอบของ 100037 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 31, 461
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 100037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100037 = 7 x 31 x 461
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 100037 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 100037 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 100037 มา 1 คู่ เช่น 7 x 14291
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100037
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100037 แบบที่หนึ่ง
- 100037
- 217
- 7
- 31
- 461
- 217
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 100037 แบบที่สอง
- 100037
- 7
- 14291
- 31
- 461
ดังนั้น 100037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100037 =
7 x 31 x 461
2. การแยกตัวประกอบของ 100037 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 100037 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100037 นั้นก็คือ 7, 31, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100037
7)10003731)14291461)4611ดังนั้น 100037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้100037 = 7 x 31 x 461วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 100037
1แยกตัวประกอบของ 100037 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 311 x 46112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100037 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 100037 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 100037 นั้นก็คือ 7, 31, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 100037
7
)100037
31
)14291
461
)461
1
ดังนั้น 100037 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
100037 = 7 x 31 x 461
1แยกตัวประกอบของ 100037 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 311 x 4611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 100037 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 100037 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇