โปรแกรมหาห.ร.ม.
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาห.ร.ม โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาห.ร.ม.ให้อัตโนมัติ

ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาห.ร.ม.

ห.ร.ม.ของ 86 และ 168 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม
"ตัวหารร่วม" หรือ "ตัวประกอบร่วม"(common factors) หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไปลงตัว

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาห.ร.ม.ของ 86 และ 168 กันเลย

ห.ร.ม. ของ 86 และ 168 คือ 2
การหาห.ร.ม.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาห.ร.ม. ของ 86 และ 168 โดยการหาตัวประกอบ

ตัวประกอบของ 86 คือ
124386

ตัวประกอบของ 168 คือ
12346781214212428425684168

ตัวประกอบร่วมของ 86 และ 168 คือ 1, 2
เลือกตัวประกอบร่วมที่มีค่ามากที่สุดของ 86 และ 168 มาเป็นห.ร.ม.
ตอบ ห.ร.ม.ของ 86 และ 168 คือ 2

2.วิธีหาห.ร.ม.ของ 86 และ 168 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1: เริ่มด้วยการแยกตัวประกอบของ 86 และ 168
2
)86
43
)43
1

86 = 2 x 43
2
)168
2
)84
2
)42
3
)21
7
)7
1

168 = 2 x 2 x 2 x 3 x 7
86 แยกตัวประกอบได้ = 2x43  ดูวิธีแยกตัวประกอบ
168 แยกตัวประกอบได้ = 2x2x2x3x7  ดูวิธีแยกตัวประกอบ
ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 86 และ 168 ทั้งหมดออกมาคือ
2
ขั้นตอนที่ 3 นำตัวประกอบร่วมที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ห.ร.ม.
เนื่องจากมีตัวประกอบร่วมเพียงหนึ่งตัวคือ 2 ดังนั้นไม่ต้องเอาไปคูณกับจำนวนใด
ตอบ ห.ร.ม.ของ 86 และ 168 = 2

3.วิธีหาห.ร.ม. ของ 86 และ 168 ด้วยวิธีหารสั้น

มีหลักการดังนี้
3.1) นำจำนวนทั้งหมดที่ต้องการหา ห.ร.ม. มาเขียนเรียงกัน
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่หารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัวมาหารไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่สามารถหารได้
3.3) นำตัวหารทุกตัวที่ใช้มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ห.ร.ม.

2
)86
168
4384
ตอบ ห.ร.ม.ของ 86 และ 168 คือ = 2

4.วิธีหาห.ร.ม. ของ 86 และ 168 โดยขั้นตอนวิธีแบบยุคลิด

ขั้นตอนที่ 1 หารจำนวนมาก 168 ด้วยจำนวนน้อย 86
        1
86
)168
86
82
ขั้นตอนที่ 2 เอาเศษที่ได้คือ 82 ไปหาร 86
     1
82
)86
82
4
ขั้นตอนที่ 3 เอาเศษที่ได้คือ 4 ไปหาร 82
    20
4
)82
80
2
ขั้นตอนที่ 4 เอาเศษที่ได้คือ 2 ไปหาร 4
    2
2
)4
4
0
การหารจะดำเนินการไปเรื่อยๆ จนกว่าเศษจะเท่ากับ 0 และตัวหารตัวสุดท้ายคือค่าของห.ร.ม.
จากการหารข้างต้นตัวหารตัวสุดท้ายคือ 2
ตอบ ห.ร.ม.ของ 86 และ 168 = 2