โปรแกรมหาห.ร.ม.
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาห.ร.ม โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาห.ร.ม.ให้อัตโนมัติ

ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาห.ร.ม.

ห.ร.ม.ของ 94 และ 204 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม
"ตัวหารร่วม" หรือ "ตัวประกอบร่วม"(common factors) หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไปลงตัว

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาห.ร.ม.ของ 94 และ 204 กันเลย

ห.ร.ม. ของ 94 และ 204 คือ 2
การหาห.ร.ม.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาห.ร.ม. ของ 94 และ 204 โดยการหาตัวประกอบ

ตัวประกอบของ 94 คือ
124794

ตัวประกอบของ 204 คือ
123461217345168102204

ตัวประกอบร่วมของ 94 และ 204 คือ 1, 2
เลือกตัวประกอบร่วมที่มีค่ามากที่สุดของ 94 และ 204 มาเป็นห.ร.ม.
ตอบ ห.ร.ม.ของ 94 และ 204 คือ 2

2.วิธีหาห.ร.ม.ของ 94 และ 204 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1: เริ่มด้วยการแยกตัวประกอบของ 94 และ 204
2
)94
47
)47
1

94 = 2 x 47
2
)204
2
)102
3
)51
17
)17
1

204 = 2 x 2 x 3 x 17
94 แยกตัวประกอบได้ = 2x47  ดูวิธีแยกตัวประกอบ
204 แยกตัวประกอบได้ = 2x2x3x17  ดูวิธีแยกตัวประกอบ
ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 94 และ 204 ทั้งหมดออกมาคือ
2
ขั้นตอนที่ 3 นำตัวประกอบร่วมที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ห.ร.ม.
เนื่องจากมีตัวประกอบร่วมเพียงหนึ่งตัวคือ 2 ดังนั้นไม่ต้องเอาไปคูณกับจำนวนใด
ตอบ ห.ร.ม.ของ 94 และ 204 = 2

3.วิธีหาห.ร.ม. ของ 94 และ 204 ด้วยวิธีหารสั้น

มีหลักการดังนี้
3.1) นำจำนวนทั้งหมดที่ต้องการหา ห.ร.ม. มาเขียนเรียงกัน
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่หารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัวมาหารไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่สามารถหารได้
3.3) นำตัวหารทุกตัวที่ใช้มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ห.ร.ม.

2
)94
204
47102
ตอบ ห.ร.ม.ของ 94 และ 204 คือ = 2

4.วิธีหาห.ร.ม. ของ 94 และ 204 โดยขั้นตอนวิธีแบบยุคลิด

ขั้นตอนที่ 1 หารจำนวนมาก 204 ด้วยจำนวนน้อย 94
        2
94
)204
188
16
ขั้นตอนที่ 2 เอาเศษที่ได้คือ 16 ไปหาร 94
     5
16
)94
80
14
ขั้นตอนที่ 3 เอาเศษที่ได้คือ 14 ไปหาร 16
     1
14
)16
14
2
ขั้นตอนที่ 4 เอาเศษที่ได้คือ 2 ไปหาร 14
     7
2
)14
14
0
การหารจะดำเนินการไปเรื่อยๆ จนกว่าเศษจะเท่ากับ 0 และตัวหารตัวสุดท้ายคือค่าของห.ร.ม.
จากการหารข้างต้นตัวหารตัวสุดท้ายคือ 2
ตอบ ห.ร.ม.ของ 94 และ 204 = 2