เครื่องคิดเลขหารากที่สอง, รากที่สาม
เครื่องคิดเลขจะแสดงคำตอบและวิธีหารากที่สอง, รากที่สามให้อัตโนมัติ
รากที่สองของ 1936 คืออะไร มาดูคำตอบและวิธีการคำนวณกัน
การหารากที่สองของ 1936 ไม่ยากเลย ในที่นี้ได้แสดงวิธีหารากที่สองของ 1936 ไว้เป็นขั้นตอนอ่านแล้วเข้าใจง่าย
รากที่สองของ 1936 เขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ดังนี้
\(\sqrt{1936}\) และ -\(\sqrt{1936}\)
คำตอบรากที่สองของ 1936 = 44 และ -44
นิยามของรากที่สองคำตอบรากที่สองของ 1936 = 44 และ -44
ให้ a แทนจำนวนจริงบวกใด ๆ หรือศูนย์ รากที่สองของ a คือจำนวนจริงที่ยกกำลังสองแล้วได้ a
และถ้า a เป็นจำนวนจริงบวก รากที่สองของ a มีสองรากคือ
รากที่สองที่เป็นบวกของ a ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ \(\sqrt{a}\)
รากที่สองที่เป็นลบของ a ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ -\(\sqrt{a}\)
🤓 ดังนั้นจากคำนิยามข้างต้น รากที่สองของ 1936 คือจำนวนจริงที่ยกกำลังสองแล้วได้ 1936
และเนื่องจาก 1936 เป็นจำนวนจริงบวก รากที่สองของ 1936 มีสองรากคือ
รากที่สองที่เป็นบวกของ 1936 ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ \(\sqrt{1936}\)
รากที่สองที่เป็นลบของ 1936 ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ -\(\sqrt{1936}\)
การเขียนชื่อ "ราก" สามารถเขียนว่า
"รากที่สอง" หรือ "รากที่ 2" ก็ได้
วิธีหารากที่สองของ 1936 ด้วยการหาจำนวนจริงที่ยกกำลังสองแล้วได้ 1936
442 = 1936
คำตอบ รากที่สองของ 1936 = 44 และ -44
***คำตอบมีทั้งบวกและลบเพราะว่า root ที่ n = 2 เป็นจำนวนคู่
วิธีหารากที่สองของ 1936 ด้วยการแยกตัวประกอบ
***ในที่นี้ใช้รากที่เป็นบวกเป็นหลักในขั้นตอนแสดงวิธีทำการแยกตัวประกอบในที่นี้ใช้วิธีหารสั้น
2
)1936
2
)968
2
)484
2
)242
11
)121
11
)11
1
1936 แยกตัวประกอบได้ = 2 x 2 x 2 x 2 x 11 x 11 👉ดูวิธีการแยกตัวประกอบ
รากที่สองของ 1936 =
\(\sqrt{2 \times 2 \times 2 \times 2 \times 11 \times 11}\)
เอาตัวประกอบที่ซ้ำกัน 2 ตัวออกจากเครื่องหมาย \(\sqrt{\qquad}\) มาเขียนด้านนอกได้ 1 ตัว ซึ่งจากการแยกตัวประกอบด้านบนสามารถอธิบายได้ดังนี้
▶ มี 2 ทั้งหมด 4 ตัว
สามารถดึง 2 จำนวน 4 ตัวออกจากเครื่องหมาย \(\sqrt{\qquad}\) มาเขียนด้านนอกได้ 2 ตัว
▶ มี 11 ทั้งหมด 2 ตัว
สามารถดึง 11 จำนวน 2 ตัวออกจากเครื่องหมาย \(\sqrt{\qquad}\) มาเขียนด้านนอกได้ 1 ตัว
ดังนั้น
รากที่สองของ 1936 =
2 x 2x 11 = 44
คำตอบ รากที่สองของ 1936 = 44
และ -44
***คำตอบมีทั้งบวกและลบเพราะว่า root ที่ n = 2 เป็นจำนวนคู่
***คำตอบมีทั้งบวกและลบเพราะว่า root ที่ n = 2 เป็นจำนวนคู่
😁 จะเห็นได้ว่าการหารากที่สองของ 1936 ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากนักขอแค่เราพยายามและฝึกฝนทำโจทย์เรื่อยๆ และอย่าไปเครียดกับมันมากนักเราก็สามารถทำมันได้
