โปรแกรมหาค.ร.น. ออนไลน์
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาค.ร.น. โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาค.ร.น.ให้อัตโนมัติ
ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาค.ร.น.

ค.ร.น.ของ 63 และ 255 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 63 และ 255 กันเลย

ค.ร.น. ของ 63 และ 255 คือ 5355
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 63 และ 255 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 63 และ 255
3
)63
3
)21
7
)7
1

63 = 3 x 3 x 7
3
)255
5
)85
17
)17
1

255 = 3 x 5 x 17
63 แยกตัวประกอบได้ = 3x3x7  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 63

255 แยกตัวประกอบได้ = 3x5x17  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 255

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 63 และ 255 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
3
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
3, 5, 7 และ 17
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
3 x 3 x 5 x 7 x 17 = 5,355
ตอบ ค.ร.น.ของ 63 และ 255 คือ 5,355

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 63 และ 255 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 63 และ 255

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 63 คือ 63,126,189,252,315,378,441,504,567,630,693,756,819,882,945,1008,1071,1134,1197,1260,1323,1386,1449,1512,1575,1638,1701,1764,1827,1890,1953,2016,2079,2142,2205,2268,2331,2394,2457,2520,2583,2646,2709,2772,2835,2898,2961,3024,3087,3150,3213,3276,3339,3402,3465,3528,3591,3654,3717,3780,3843,3906,3969,4032,4095,4158,4221,4284,4347,4410,4473,4536,4599,4662,4725,4788,4851,4914,4977,5040,5103,5166,5229,5292,5355,5418,5481,5544 , . . .

ตัวคูณของ 255 คือ 255,510,765,1020,1275,1530,1785,2040,2295,2550,2805,3060,3315,3570,3825,4080,4335,4590,4845,5100,5355,5610,5865,6120,6375,6630,6885,7140,7395,7650,7905,8160,8415,8670,8925,9180,9435,9690,9945,10200,10455,10710,10965,11220,11475,11730,11985,12240,12495,12750,13005,13260,13515,13770,14025,14280,14535,14790,15045,15300,15555,15810,16065,16320,16575,16830,17085,17340,17595,17850,18105,18360,18615,18870,19125,19380,19635,19890,20145,20400,20655,20910,21165,21420,21675,21930,22185,22440 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 63 และ 255
ตัวคูณร่วมของ 63 และ 255 คือ 5355, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 63 และ 255 คือ 5,355

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 63 และ 255 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

3
)63255
2185

ตัวหารทั้งหมดคือ 3
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 21, 85
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
3 x 21 x 85 = 5,355
ตอบ ค.ร.น.ของ 63 และ 255 คือ 5,355

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร
a = 63, b = 255
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 63 และ 255 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 63 และ 255 = 3 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
63 x 255
ห.ร.ม. ของ 63 และ 255
=
63 x 255
3
=
5,355
ตอบ ค.ร.น.ของ 63 และ 255 คือ 5,355
ค.ร.น.ของจำนวนนับอื่นๆ