โปรแกรมหาค.ร.น. ออนไลน์
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาค.ร.น. โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาค.ร.น.ให้อัตโนมัติ
ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาค.ร.น.

ค.ร.น.ของ 110 และ 262 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 110 และ 262 กันเลย

ค.ร.น. ของ 110 และ 262 คือ 14410
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 110 และ 262 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 110 และ 262
2
)110
5
)55
11
)11
1

110 = 2 x 5 x 11
2
)262
131
)131
1

262 = 2 x 131
110 แยกตัวประกอบได้ = 2x5x11  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 110

262 แยกตัวประกอบได้ = 2x131  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 262

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 110 และ 262 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
2
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
5, 11 และ 131
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2 x 5 x 11 x 131 = 14,410
ตอบ ค.ร.น.ของ 110 และ 262 คือ 14,410

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 110 และ 262 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 110 และ 262

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 110 คือ 110,220,330,440,550,660,770,880,990,1100,1210,1320,1430,1540,1650,1760,1870,1980,2090,2200,2310,2420,2530,2640,2750,2860,2970,3080,3190,3300,3410,3520,3630,3740,3850,3960,4070,4180,4290,4400,4510,4620,4730,4840,4950,5060,5170,5280,5390,5500,5610,5720,5830,5940,6050,6160,6270,6380,6490,6600,6710,6820,6930,7040,7150,7260,7370,7480,7590,7700,7810,7920,8030,8140,8250,8360,8470,8580,8690,8800,8910,9020,9130,9240,9350,9460,9570,9680,9790,9900,10010,10120,10230,10340,10450,10560,10670,10780,10890,11000,11110,11220,11330,11440,11550,11660,11770,11880,11990,12100,12210,12320,12430,12540,12650,12760,12870,12980,13090,13200,13310,13420,13530,13640,13750,13860,13970,14080,14190,14300,14410,14520,14630,14740 , . . .

ตัวคูณของ 262 คือ 262,524,786,1048,1310,1572,1834,2096,2358,2620,2882,3144,3406,3668,3930,4192,4454,4716,4978,5240,5502,5764,6026,6288,6550,6812,7074,7336,7598,7860,8122,8384,8646,8908,9170,9432,9694,9956,10218,10480,10742,11004,11266,11528,11790,12052,12314,12576,12838,13100,13362,13624,13886,14148,14410,14672,14934,15196,15458,15720,15982,16244,16506,16768,17030,17292,17554,17816,18078,18340,18602,18864,19126,19388,19650,19912,20174,20436,20698,20960,21222,21484,21746,22008,22270,22532,22794,23056,23318,23580,23842,24104,24366,24628,24890,25152,25414,25676,25938,26200,26462,26724,26986,27248,27510,27772,28034,28296,28558,28820,29082,29344,29606,29868,30130,30392,30654,30916,31178,31440,31702,31964,32226,32488,32750,33012,33274,33536,33798,34060,34322,34584,34846,35108 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 110 และ 262
ตัวคูณร่วมของ 110 และ 262 คือ 14410, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 110 และ 262 คือ 14,410

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 110 และ 262 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

2
)110262
55131

ตัวหารทั้งหมดคือ 2
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 55, 131
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
2 x 55 x 131 = 14,410
ตอบ ค.ร.น.ของ 110 และ 262 คือ 14,410

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร
a = 110, b = 262
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 110 และ 262 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 110 และ 262 = 2 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
110 x 262
ห.ร.ม. ของ 110 และ 262
=
110 x 262
2
=
14,410
ตอบ ค.ร.น.ของ 110 และ 262 คือ 14,410
ค.ร.น.ของจำนวนนับอื่นๆ