โปรแกรมหาค.ร.น. ออนไลน์
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาค.ร.น. โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาค.ร.น.ให้อัตโนมัติ
ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาค.ร.น.

ค.ร.น.ของ 112 และ 170 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 112 และ 170 กันเลย

ค.ร.น. ของ 112 และ 170 คือ 9520
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 112 และ 170 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 112 และ 170
2
)112
2
)56
2
)28
2
)14
7
)7
1

112 = 2 x 2 x 2 x 2 x 7
2
)170
5
)85
17
)17
1

170 = 2 x 5 x 17
112 แยกตัวประกอบได้ = 2x2x2x2x7  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 112

170 แยกตัวประกอบได้ = 2x5x17  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 170

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 112 และ 170 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
2
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
2, 2, 2, 5, 7 และ 17
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 7 x 17 = 9,520
ตอบ ค.ร.น.ของ 112 และ 170 คือ 9,520

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 112 และ 170 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 112 และ 170

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 112 คือ 112,224,336,448,560,672,784,896,1008,1120,1232,1344,1456,1568,1680,1792,1904,2016,2128,2240,2352,2464,2576,2688,2800,2912,3024,3136,3248,3360,3472,3584,3696,3808,3920,4032,4144,4256,4368,4480,4592,4704,4816,4928,5040,5152,5264,5376,5488,5600,5712,5824,5936,6048,6160,6272,6384,6496,6608,6720,6832,6944,7056,7168,7280,7392,7504,7616,7728,7840,7952,8064,8176,8288,8400,8512,8624,8736,8848,8960,9072,9184,9296,9408,9520,9632,9744,9856 , . . .

ตัวคูณของ 170 คือ 170,340,510,680,850,1020,1190,1360,1530,1700,1870,2040,2210,2380,2550,2720,2890,3060,3230,3400,3570,3740,3910,4080,4250,4420,4590,4760,4930,5100,5270,5440,5610,5780,5950,6120,6290,6460,6630,6800,6970,7140,7310,7480,7650,7820,7990,8160,8330,8500,8670,8840,9010,9180,9350,9520,9690,9860,10030,10200,10370,10540,10710,10880,11050,11220,11390,11560,11730,11900,12070,12240,12410,12580,12750,12920,13090,13260,13430,13600,13770,13940,14110,14280,14450,14620,14790,14960 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 112 และ 170
ตัวคูณร่วมของ 112 และ 170 คือ 9520, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 112 และ 170 คือ 9,520

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 112 และ 170 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

2
)112170
5685

ตัวหารทั้งหมดคือ 2
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 56, 85
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
2 x 56 x 85 = 9,520
ตอบ ค.ร.น.ของ 112 และ 170 คือ 9,520

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร
a = 112, b = 170
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 112 และ 170 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 112 และ 170 = 2 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
112 x 170
ห.ร.ม. ของ 112 และ 170
=
112 x 170
2
=
9,520
ตอบ ค.ร.น.ของ 112 และ 170 คือ 9,520
ค.ร.น.ของจำนวนนับอื่นๆ