ค.ร.น.ของ 111 และ 255 คือะไร มาหาคำตอบกัน

คำนิยาม

ตัวคูณร่วมน้อย หรือ ค.ร.น (Least common multiple หรือ LCM) หมายถึง จำนวนนับที่น้อยที่สุดที่สามารถนำจำนวนนับอย่างน้อยสองจำนวนไปหารได้ลงตัว

ดังนั้น ค.ร.น ของ 111 และ 255 หมายถึง จำนวนนับที่น้อยที่สุดที่สามารถนำ 111 และ 255 ไปหารได้ลงตัวนั้นเอง

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 111 และ 255 กันเลย

ค.ร.น. ของ 111 และ 255 คือ 9435

การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 111 และ 255 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้

(1.1) แยกตัวประกอบของจำนวนทุกจำนวนที่ต้องการหา ค.ร.น.

(1.2) เลือกตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป

(1.3) เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด

(1.4) นำจำนวนที่ได้จากข้อ 1.2 และ ข้อ 1.3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

มาเริ่มทำกันเลย

ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 111 และ 255

)111

)37

111 = 3 x 37

)255

)85

)17

255 = 3 x 5 x 17

111 แยกตัวประกอบได้ = 3x37 ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 111

255 แยกตัวประกอบได้ = 3x5x17 ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 255

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 111 และ 255 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป

จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ

ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ

5, 17 และ 37

ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

3 x 5 x 17 x 37 = 9,435

ตอบ ค.ร.น.ของ 111 และ 255 คือ 9,435 ✔

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 111 และ 255 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 111 และ 255

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก

ตัวคูณของ 111 คือ 111,222,333,444,555,666,777,888,999,1110,1221,1332,1443,1554,1665,1776,1887,1998,2109,2220,2331,2442,2553,2664,2775,2886,2997,3108,3219,3330,3441,3552,3663,3774,3885,3996,4107,4218,4329,4440,4551,4662,4773,4884,4995,5106,5217,5328,5439,5550,5661,5772,5883,5994,6105,6216,6327,6438,6549,6660,6771,6882,6993,7104,7215,7326,7437,7548,7659,7770,7881,7992,8103,8214,8325,8436,8547,8658,8769,8880,8991,9102,9213,9324,9435,9546,9657,9768 , . . .

ตัวคูณของ 255 คือ 255,510,765,1020,1275,1530,1785,2040,2295,2550,2805,3060,3315,3570,3825,4080,4335,4590,4845,5100,5355,5610,5865,6120,6375,6630,6885,7140,7395,7650,7905,8160,8415,8670,8925,9180,9435,9690,9945,10200,10455,10710,10965,11220,11475,11730,11985,12240,12495,12750,13005,13260,13515,13770,14025,14280,14535,14790,15045,15300,15555,15810,16065,16320,16575,16830,17085,17340,17595,17850,18105,18360,18615,18870,19125,19380,19635,19890,20145,20400,20655,20910,21165,21420,21675,21930,22185,22440 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 111 และ 255

ตัวคูณร่วมของ 111 และ 255 คือ 9435, . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 111 และ 255 คือ 9,435

ตอบ ค.ร.น.ของ 111 และ 255 คือ 9,435 ✔

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 111 และ 255 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ

3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา

3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว

3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

)111255

3785

ตัวหารทั้งหมดคือ 3

ผลหารชุดสุดท้ายคือ 37, 85

นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้

3 x 37 x 85 = 9,435

ตอบ ค.ร.น.ของ 111 และ 255 คือ 9,435 ✔

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร

a x b

ห.ร.ม. ของ a, b

a = 111, b = 255

ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 111 และ 255 ให้ได้ซ่ะก่อน

ห.ร.ม. ของ 111 และ 255 = 3 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.

แทนค่าต่างๆตามสูตร

111 x 255

ห.ร.ม. ของ 111 และ 255

111 x 255

9,435

ตอบ ค.ร.น.ของ 111 และ 255 คือ 9,435 ✔