โปรแกรมหาค.ร.น.
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาค.ร.น. โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาค.ร.น.ให้อัตโนมัติ
ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาค.ร.น.

ค.ร.น.ของ 104 และ 170 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 104 และ 170 กันเลย

ค.ร.น. ของ 104 และ 170 คือ 8840
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 104 และ 170 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 104 และ 170
2
)104
2
)52
2
)26
13
)13
1

104 = 2 x 2 x 2 x 13
2
)170
5
)85
17
)17
1

170 = 2 x 5 x 17
104 แยกตัวประกอบได้ = 2x2x2x13  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 104

170 แยกตัวประกอบได้ = 2x5x17  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 170

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 104 และ 170 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
2
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
2, 2, 5, 13 และ 17
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2 x 2 x 2 x 5 x 13 x 17 = 8,840
ตอบ ค.ร.น.ของ 104 และ 170 คือ 8,840

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 104 และ 170 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 104 และ 170

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 104 คือ 104,208,312,416,520,624,728,832,936,1040,1144,1248,1352,1456,1560,1664,1768,1872,1976,2080,2184,2288,2392,2496,2600,2704,2808,2912,3016,3120,3224,3328,3432,3536,3640,3744,3848,3952,4056,4160,4264,4368,4472,4576,4680,4784,4888,4992,5096,5200,5304,5408,5512,5616,5720,5824,5928,6032,6136,6240,6344,6448,6552,6656,6760,6864,6968,7072,7176,7280,7384,7488,7592,7696,7800,7904,8008,8112,8216,8320,8424,8528,8632,8736,8840,8944,9048,9152 , . . .

ตัวคูณของ 170 คือ 170,340,510,680,850,1020,1190,1360,1530,1700,1870,2040,2210,2380,2550,2720,2890,3060,3230,3400,3570,3740,3910,4080,4250,4420,4590,4760,4930,5100,5270,5440,5610,5780,5950,6120,6290,6460,6630,6800,6970,7140,7310,7480,7650,7820,7990,8160,8330,8500,8670,8840,9010,9180,9350,9520,9690,9860,10030,10200,10370,10540,10710,10880,11050,11220,11390,11560,11730,11900,12070,12240,12410,12580,12750,12920,13090,13260,13430,13600,13770,13940,14110,14280,14450,14620,14790,14960 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 104 และ 170
ตัวคูณร่วมของ 104 และ 170 คือ 8840, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 104 และ 170 คือ 8,840

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 104 และ 170 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

2
)104170
5285

ตัวหารทั้งหมดคือ 2
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 52, 85
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
2 x 52 x 85 = 8,840
ตอบ ค.ร.น.ของ 104 และ 170 คือ 8,840

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร
a = 104, b = 170
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 104 และ 170 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 104 และ 170 = 2 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
104 x 170
ห.ร.ม. ของ 104 และ 170
=
104 x 170
2
=
8,840
ตอบ ค.ร.น.ของ 104 และ 170 คือ 8,840
ค.ร.น.ของจำนวนนับอื่นๆ