โปรแกรมหาค.ร.น. ออนไลน์
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาค.ร.น. โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาค.ร.น.ให้อัตโนมัติ
ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาค.ร.น.

ค.ร.น.ของ 102 และ 267 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 102 และ 267 กันเลย

ค.ร.น. ของ 102 และ 267 คือ 9078
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 102 และ 267 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 102 และ 267
2
)102
3
)51
17
)17
1

102 = 2 x 3 x 17
3
)267
89
)89
1

267 = 3 x 89
102 แยกตัวประกอบได้ = 2x3x17  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 102

267 แยกตัวประกอบได้ = 3x89  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 267

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 102 และ 267 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
3
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
2, 17 และ 89
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2 x 3 x 17 x 89 = 9,078
ตอบ ค.ร.น.ของ 102 และ 267 คือ 9,078

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 102 และ 267 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 102 และ 267

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 102 คือ 102,204,306,408,510,612,714,816,918,1020,1122,1224,1326,1428,1530,1632,1734,1836,1938,2040,2142,2244,2346,2448,2550,2652,2754,2856,2958,3060,3162,3264,3366,3468,3570,3672,3774,3876,3978,4080,4182,4284,4386,4488,4590,4692,4794,4896,4998,5100,5202,5304,5406,5508,5610,5712,5814,5916,6018,6120,6222,6324,6426,6528,6630,6732,6834,6936,7038,7140,7242,7344,7446,7548,7650,7752,7854,7956,8058,8160,8262,8364,8466,8568,8670,8772,8874,8976,9078,9180,9282,9384 , . . .

ตัวคูณของ 267 คือ 267,534,801,1068,1335,1602,1869,2136,2403,2670,2937,3204,3471,3738,4005,4272,4539,4806,5073,5340,5607,5874,6141,6408,6675,6942,7209,7476,7743,8010,8277,8544,8811,9078,9345,9612,9879,10146,10413,10680,10947,11214,11481,11748,12015,12282,12549,12816,13083,13350,13617,13884,14151,14418,14685,14952,15219,15486,15753,16020,16287,16554,16821,17088,17355,17622,17889,18156,18423,18690,18957,19224,19491,19758,20025,20292,20559,20826,21093,21360,21627,21894,22161,22428,22695,22962,23229,23496,23763,24030,24297,24564 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 102 และ 267
ตัวคูณร่วมของ 102 และ 267 คือ 9078, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 102 และ 267 คือ 9,078

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 102 และ 267 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

3
)102267
3489

ตัวหารทั้งหมดคือ 3
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 34, 89
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
3 x 34 x 89 = 9,078
ตอบ ค.ร.น.ของ 102 และ 267 คือ 9,078

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร
a = 102, b = 267
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 102 และ 267 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 102 และ 267 = 3 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
102 x 267
ห.ร.ม. ของ 102 และ 267
=
102 x 267
3
=
9,078
ตอบ ค.ร.น.ของ 102 และ 267 คือ 9,078
ค.ร.น.ของจำนวนนับอื่นๆ