โปรแกรมหาค.ร.น. ออนไลน์
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาค.ร.น. โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการหาค.ร.น.ให้อัตโนมัติ
ใส่ตัวเลขแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,) หรือกดปุ่ม Enter
ล้างข้อมูล
🔍 ค้นหาค.ร.น.

ค.ร.น.ของ 64 และ 170 คือะไร มาหาคำตอบกัน

เทพควิช-lnwquiz
คำนิยาม

ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 64 และ 170 กันเลย

ค.ร.น. ของ 64 และ 170 คือ 5440
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้

1.วิธีหาค.ร.น. ของ 64 และ 170 โดยการแยกตัวประกอบ

มีวิธีการดังนี้
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 64 และ 170
2
)64
2
)32
2
)16
2
)8
2
)4
2
)2
1

64 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2
2
)170
5
)85
17
)17
1

170 = 2 x 5 x 17
64 แยกตัวประกอบได้ = 2x2x2x2x2x2  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 64

170 แยกตัวประกอบได้ = 2x5x17  ดูวิธีแยกตัวประกอบของ 170

ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 64 และ 170 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
2
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
2, 2, 2, 2, 2, 5 และ 17
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 17 = 5,440
ตอบ ค.ร.น.ของ 64 และ 170 คือ 5,440

2.วิธีหาค.ร.น.ของ 64 และ 170 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 64 และ 170

วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 64 คือ 64,128,192,256,320,384,448,512,576,640,704,768,832,896,960,1024,1088,1152,1216,1280,1344,1408,1472,1536,1600,1664,1728,1792,1856,1920,1984,2048,2112,2176,2240,2304,2368,2432,2496,2560,2624,2688,2752,2816,2880,2944,3008,3072,3136,3200,3264,3328,3392,3456,3520,3584,3648,3712,3776,3840,3904,3968,4032,4096,4160,4224,4288,4352,4416,4480,4544,4608,4672,4736,4800,4864,4928,4992,5056,5120,5184,5248,5312,5376,5440,5504,5568,5632 , . . .

ตัวคูณของ 170 คือ 170,340,510,680,850,1020,1190,1360,1530,1700,1870,2040,2210,2380,2550,2720,2890,3060,3230,3400,3570,3740,3910,4080,4250,4420,4590,4760,4930,5100,5270,5440,5610,5780,5950,6120,6290,6460,6630,6800,6970,7140,7310,7480,7650,7820,7990,8160,8330,8500,8670,8840,9010,9180,9350,9520,9690,9860,10030,10200,10370,10540,10710,10880,11050,11220,11390,11560,11730,11900,12070,12240,12410,12580,12750,12920,13090,13260,13430,13600,13770,13940,14110,14280,14450,14620,14790,14960 , . . .

ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 64 และ 170
ตัวคูณร่วมของ 64 และ 170 คือ 5440, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 64 และ 170 คือ 5,440

3.วิธีหาค.ร.น. ของ 64 และ 170 ด้วยวิธีหารสั้น

3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.

2
)64170
3285

ตัวหารทั้งหมดคือ 2
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 32, 85
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
2 x 32 x 85 = 5,440
ตอบ ค.ร.น.ของ 64 และ 170 คือ 5,440

4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร

สูตร
a = 64, b = 170
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 64 และ 170 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 64 และ 170 = 2 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
64 x 170
ห.ร.ม. ของ 64 และ 170
=
64 x 170
2
=
5,440
ตอบ ค.ร.น.ของ 64 และ 170 คือ 5,440
ค.ร.น.ของจำนวนนับอื่นๆ