ค.ร.น.ของ 32 และ 210 คือะไร มาหาคำตอบกัน
คำนิยาม
ตัวคูณร่วมน้อย หรือ ค.ร.น (Least common multiple หรือ LCM) หมายถึง จำนวนนับที่น้อยที่สุดที่สามารถนำจำนวนนับอย่างน้อยสองจำนวนไปหารได้ลงตัว
ดังนั้น ค.ร.น ของ 32 และ 210 หมายถึง จำนวนนับที่น้อยที่สุดที่สามารถนำ 32 และ 210 ไปหารได้ลงตัวนั้นเอง
ถ้าพร้อมแล้วมาดูคำตอบและวิธีหาค.ร.น.ของ 32 และ 210 กันเลย
ค.ร.น. ของ 32 และ 210 คือ 3360
การหาค.ร.น.มีหลายวิธีดังนี้
1.วิธีหาค.ร.น. ของ 32 และ 210 โดยการแยกตัวประกอบ
มีวิธีการดังนี้
(1.1) แยกตัวประกอบของจำนวนทุกจำนวนที่ต้องการหา ค.ร.น.
(1.2) เลือกตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
(1.3) เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด
(1.4) นำจำนวนที่ได้จากข้อ 1.2 และ ข้อ 1.3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
มาเริ่มทำกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 แยกตัวประกอบของ 32 และ 210
2
)32
2
)16
2
)8
2
)4
2
)2
1
32 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2
2
)210
3
)105
5
)35
7
)7
1
210 = 2 x 3 x 5 x 7
ขั้นตอนที่ 2 เลือกตัวประกอบร่วมของ 32 และ 210 หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป
จากผลการแยกตัวประกอบข้างต้น มีตัวประกอบร่วมของจำนวนทั้งหมด หรือตัวประกอบร่วมของสองจำนวนขึ้นไป คือ
2
ขั้นตอนที่ 3 เลือกตัวประกอบที่เหลือมาทั้งหมด นั้นก็คือ
ขั้นตอนที่ 4 นำจำนวนที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 มาคูณกันก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2, 2, 2, 2, 3, 5 และ 7
2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 5 x 7 = 3,360
ตอบ ค.ร.น.ของ 32 และ 210 คือ 3,360 ✔
2.วิธีหาค.ร.น.ของ 32 และ 210 โดยพิจารณาตัวคูณร่วมของ 32 และ 210
วิธีนี้เหมาะกับการหาค.ร.น.ของตัวเลข 2 ตัวที่มีค่าน้อยๆ เพราะถ้าตัวเลขมีค่ามากหรือถ้าเป็นการหาค.ร.น.ของตัวเลข 3 ตัวขึ้นไปจะใช้เวลานานมาก
ตัวคูณของ 32 คือ
32,64,96,128,160,192,224,256,288,320,352,384,416,448,480,512,544,576,608,640,672,704,736,768,800,832,864,896,928,960,992,1024,1056,1088,1120,1152,1184,1216,1248,1280,1312,1344,1376,1408,1440,1472,1504,1536,1568,1600,1632,1664,1696,1728,1760,1792,1824,1856,1888,1920,1952,1984,2016,2048,2080,2112,2144,2176,2208,2240,2272,2304,2336,2368,2400,2432,2464,2496,2528,2560,2592,2624,2656,2688,2720,2752,2784,2816,2848,2880,2912,2944,2976,3008,3040,3072,3104,3136,3168,3200,3232,3264,3296,3328,3360,3392,3424,3456 , . . .
ตัวคูณของ 210 คือ
210,420,630,840,1050,1260,1470,1680,1890,2100,2310,2520,2730,2940,3150,3360,3570,3780,3990,4200,4410,4620,4830,5040,5250,5460,5670,5880,6090,6300,6510,6720,6930,7140,7350,7560,7770,7980,8190,8400,8610,8820,9030,9240,9450,9660,9870,10080,10290,10500,10710,10920,11130,11340,11550,11760,11970,12180,12390,12600,12810,13020,13230,13440,13650,13860,14070,14280,14490,14700,14910,15120,15330,15540,15750,15960,16170,16380,16590,16800,17010,17220,17430,17640,17850,18060,18270,18480,18690,18900,19110,19320,19530,19740,19950,20160,20370,20580,20790,21000,21210,21420,21630,21840,22050,22260,22470,22680 , . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดคือค.ร.น.ของ 32 และ 210
ตัวคูณร่วมของ 32 และ 210 คือ 3360, . . .
ตัวคูณร่วมที่มีค่าน้อยที่สุดของ 32 และ 210 คือ 3,360
ตอบ ค.ร.น.ของ 32 และ 210 คือ 3,360 ✔
3.วิธีหาค.ร.น. ของ 32 และ 210 ด้วยวิธีหารสั้น
3.1) นำจำนวนที่ต้องการหาค.ร.น.มาเป็นตัวตั้งแล้วหารทุกตัวด้วยจำนวนเฉพาะ
3.2) หาจำนวนเฉพาะที่สามารถหารจำนวนทั้งหมดได้ลงตัว หรือหารลงตัวอย่างน้อยสองจำนวน โดยที่จำนวนใดหารไม่ลงตัวให้ดึงลงมา
3.3) ให้ทำซ้ำข้อ 3.2 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหารอีกไม่ได้แล้ว
3.4) นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือก็จะได้เป็นค่าของ ค.ร.น.
2
)32210
16105
ตัวหารทั้งหมดคือ 2
ผลหารชุดสุดท้ายคือ 16, 105
นำตัวหารทุกตัวมาคูณกับผลการหารชุดสุดท้ายที่เหลือจะได้ผลคูณดังนี้
2 x 16 x 105 = 3,360
ตอบ ค.ร.น.ของ 32 และ 210 คือ
3,360 ✔
4.การหาค.ร.น.โดยใช้สูตร
สูตร
a x b
ห.ร.ม. ของ a, b
a = 32, b = 210
ก่อนอื่นต้องหา ห.ร.ม. ของ 32 และ 210 ให้ได้ซ่ะก่อน
ห.ร.ม. ของ 32 และ 210 = 2 👉 ดูวิธีหาห.ร.ม.
แทนค่าต่างๆตามสูตร
32 x 210
ห.ร.ม. ของ 32 และ 210
=
32 x 210
2
=
3,360
ตอบ ค.ร.น.ของ 32 และ 210 คือ
3,360 ✔