โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 170200 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 170200

คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 170200 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 170200 ได้ลงตัว
▶

ตัวประกอบของ 170200 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 170200 มีทั้งหมด 48 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 23, 25, 37, 40, 46, 50, 74, 92, 100, 115, 148, 184, 185, 200, 230, 296, 370, 460, 575, 740, 851, 920, 925, 1150, 1480, 1702, 1850, 2300, 3404, 3700, 4255, 4600, 6808, 7400, 8510, 17020, 21275, 34040, 42550, 85100, 170200
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
170200 ÷ 1=170200เหลือเศษ 0
170200 ÷ 2=85100เหลือเศษ 0
170200 ÷ 4=42550เหลือเศษ 0
170200 ÷ 5=34040เหลือเศษ 0
170200 ÷ 8=21275เหลือเศษ 0
170200 ÷ 10=17020เหลือเศษ 0
170200 ÷ 20=8510เหลือเศษ 0
170200 ÷ 23=7400เหลือเศษ 0
170200 ÷ 25=6808เหลือเศษ 0
170200 ÷ 37=4600เหลือเศษ 0
170200 ÷ 40=4255เหลือเศษ 0
170200 ÷ 46=3700เหลือเศษ 0
170200 ÷ 50=3404เหลือเศษ 0
170200 ÷ 74=2300เหลือเศษ 0
170200 ÷ 92=1850เหลือเศษ 0
170200 ÷ 100=1702เหลือเศษ 0
170200 ÷ 115=1480เหลือเศษ 0
170200 ÷ 148=1150เหลือเศษ 0
170200 ÷ 184=925เหลือเศษ 0
170200 ÷ 185=920เหลือเศษ 0
170200 ÷ 200=851เหลือเศษ 0
170200 ÷ 230=740เหลือเศษ 0
170200 ÷ 296=575เหลือเศษ 0
170200 ÷ 370=460เหลือเศษ 0
170200 ÷ 460=370เหลือเศษ 0
170200 ÷ 575=296เหลือเศษ 0
170200 ÷ 740=230เหลือเศษ 0
170200 ÷ 851=200เหลือเศษ 0
170200 ÷ 920=185เหลือเศษ 0
170200 ÷ 925=184เหลือเศษ 0
170200 ÷ 1150=148เหลือเศษ 0
170200 ÷ 1480=115เหลือเศษ 0
170200 ÷ 1702=100เหลือเศษ 0
170200 ÷ 1850=92เหลือเศษ 0
170200 ÷ 2300=74เหลือเศษ 0
170200 ÷ 3404=50เหลือเศษ 0
170200 ÷ 3700=46เหลือเศษ 0
170200 ÷ 4255=40เหลือเศษ 0
170200 ÷ 4600=37เหลือเศษ 0
170200 ÷ 6808=25เหลือเศษ 0
170200 ÷ 7400=23เหลือเศษ 0
170200 ÷ 8510=20เหลือเศษ 0
170200 ÷ 17020=10เหลือเศษ 0
170200 ÷ 21275=8เหลือเศษ 0
170200 ÷ 34040=5เหลือเศษ 0
170200 ÷ 42550=4เหลือเศษ 0
170200 ÷ 85100=2เหลือเศษ 0
170200 ÷ 170200=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 170200
1 x 170200=170200
2 x 85100=170200
4 x 42550=170200
5 x 34040=170200
8 x 21275=170200
10 x 17020=170200
20 x 8510=170200
23 x 7400=170200
25 x 6808=170200
37 x 4600=170200
40 x 4255=170200
46 x 3700=170200
50 x 3404=170200
74 x 2300=170200
92 x 1850=170200
100 x 1702=170200
115 x 1480=170200
148 x 1150=170200
184 x 925=170200
185 x 920=170200
200 x 851=170200
230 x 740=170200
296 x 575=170200
370 x 460=170200
▶
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 170200
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 20 + 23 + 25 + 37 + 40 + 46 + 50 + 74 + 92 + 100 + 115 + 148 + 184 + 185 + 200 + 230 + 296 + 370 + 460 + 575 + 740 + 851 + 920 + 925 + 1150 + 1480 + 1702 + 1850 + 2300 + 3404 + 3700 + 4255 + 4600 + 6808 + 7400 + 8510 + 17020 + 21275 + 34040 + 42550 + 85100 + 170200 = 424080
▶
ตัวประกอบของ 170200 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 23, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶

170200 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

170200 = 2 x 2 x 2 x 5 x 5 x 23 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 170200 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
170200 = 23 x 52 x 23 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 170200 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 170200 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 170200 มา 1 คู่ เช่น 2 x 85100
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 170200
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 170200 แบบที่หนึ่ง
  • 170200
    • 370
      • 10
        • 2
        • 5
      • 37
    • 460
      • 20
        • 4
          • 2
          • 2
        • 5
      • 23
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 170200 แบบที่สอง
  • 170200
    • 2
    • 85100
      • 2
      • 42550
        • 2
        • 21275
          • 5
          • 4255
            • 5
            • 851
              • 23
              • 37
ดังนั้น 170200 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
170200 = 2 x 2 x 2 x 5 x 5 x 23 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
170200 = 23 x 52 x 23 x 37 หรือ 23 x 52 x 231 x 371

2. การแยกตัวประกอบของ 170200 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 170200 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 170200 นั้นก็คือ 2, 5, 23, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 170200
2
)170200
2
)85100
2
)42550
5
)21275
5
)4255
23
)851
37
)37
1
ดังนั้น 170200 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
170200 = 2 x 2 x 2 x 5 x 5 x 23 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
170200 = 23 x 52 x 23 x 37 หรือ 23 x 52 x 231 x 371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 170200

1แยกตัวประกอบของ 170200 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 52 x 231 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 3 x 2 x 2 = 48✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 170200 มีทั้งหมด 48 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 170200 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
เว็บไซต์เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น > นโยบายคุกกี้