เครื่องคิดเลขหารากที่สอง, รากที่สาม
เครื่องคิดเลขจะแสดงคำตอบและวิธีหารากที่สอง, รากที่สามให้อัตโนมัติ
รากที่สามของ 1352 คืออะไร มาดูคำตอบและวิธีการคำนวณกัน
การหารากที่สามของ 1352 ไม่ยากเลย ในที่นี้ได้แสดงวิธีหารากที่สามของ 1352 ไว้เป็นขั้นตอนอ่านแล้วเข้าใจง่าย
รากที่สามของ 1352 เขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ดังนี้
\(\sqrt[3]{1352}\)
คำตอบรากที่สามของ 1352 = \( 2 \sqrt[3]{169}\)
หรือค่าประมาณ = 11.058
นิยามของรากที่สามคำตอบรากที่สามของ 1352 = \( 2 \sqrt[3]{169}\)
หรือค่าประมาณ = 11.058
ให้ a แทนจำนวนจริงใดๆ รากที่สามของ a คือ จำนวนจริงที่ยกกำลังสามแล้วได้ a
รากที่สามของ a เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ \(\sqrt[3]{a}\)
ดังนั้นจากคำนิยามข้างต้น
รากที่สามของ 1352 คือ จำนวนจริงที่ยกกำลังสามแล้วได้ 1352
รากที่สามของ 1352 เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ \(\sqrt[3]{1352}\)
การเขียนชื่อ "ราก" สามารถเขียนว่า
"รากที่สาม" หรือ "รากที่ 3" ก็ได้
วิธีหารากที่สามของ 1352 ด้วยการหาจำนวนจริงที่ยกกำลังสามแล้วได้ 1352
เนื่องจากไม่มีจำนวนใดที่ยกกำลังสามแล้วเท่ากับ 1352 แต่เราสามารถหารากที่สามของ 1352 ด้วยวิธีอื่นๆ ได้เช่น การแยกตัวประกอบ ตามตัวอย่างและขั้นตอนด้านล่าง
วิธีหารากที่สามของ 1352 ด้วยการแยกตัวประกอบ
การแยกตัวประกอบในที่นี้ใช้วิธีหารสั้น
2
)1352
2
)676
2
)338
13
)169
13
)13
1
1352 แยกตัวประกอบได้ = 2 x 2 x 2 x 13 x 13 👉ดูวิธีการแยกตัวประกอบ
รากที่สามของ 1352 =
\(\sqrt[3]{2 \times 2 \times 2 \times 13 \times 13}\)
เอาตัวประกอบที่ซ้ำกัน 3 ตัวออกจากเครื่องหมาย \(\sqrt[3]{\qquad}\) มาเขียนด้านนอกได้ 1 ตัว ซึ่งจากการแยกตัวประกอบด้านบนสามารถอธิบายได้ดังนี้
▶ มี 2 ทั้งหมด 3 ตัว
สามารถดึง 2 จำนวน 3 ตัวออกจากเครื่องหมาย \(\sqrt[3]{\qquad}\) มาเขียนด้านนอกได้ 1 ตัว
ดังนั้น
รากที่สามของ 1352 =
2 \(\sqrt[3]{13 \times 13}\)
คำตอบ รากที่สามของ 1352 = 2\(\sqrt[3]{169}\)
เนื่องจากรากที่สามของ 1352 ไม่สามารถถอดค่าออกจากเครื่องหมาย \(\sqrt[3]{\qquad}\) ได้สมบูรณ์ ดังนั้นเราสามารถหารากที่สามของ 1352 ได้โดยการหาค่าประมาณ
ค่าประมาณของ รากที่สามของ 1352 คือ
11.058
***ณ ปัจจุบันระบบยังไม่สามารถแสดงวิธีหาค่าประมาณได้มีแค่คำตอบ
😁 จะเห็นได้ว่าการหารากที่สามของ 1352 ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากนักขอแค่เราพยายามและฝึกฝนทำโจทย์เรื่อยๆ และอย่าไปเครียดกับมันมากนักเราก็สามารถทำมันได้
